
เวลส์ พบ อิหร่าน ผลบอล 0ต่อ2 เวลส์ ที่เหลือ 10 คน ในช่วงท้ายครึ่งหลังจากเวย์น เฮนเนสซี่ โดนใบแดง ต้านทานพลังเกมรุกของ อิหร่าน ไม่ไหว เในช่วงทดเจ็บ โดนยิง 2 ประตูรวด จาก รูซเบห์ เชสมี่ กับ รามิน เรซาอีน พ่ายไปแบบสุดเจ็บช้ำ 0ต่อ2 ทำให้ ทัพทีมมังกรแดงยังมีแค่ 1 แต้ม หล่นไปอยู่ท้ายของกลุ่ม โอกาสตกรอบค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ส่วน อิหร่าน เก็บเพิ่มเป็น 3 แต้ม ขึ้นมาเป็นรั้งรองจ่าฝูงแล้ว

Table of Contents
เวลส์ พบ อิหร่าน ใน ฟุตบอลโลก 2022
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสอง ที่สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565 เป็นการเจอกันระหว่าง เวลส์ ที่เก็บมาได้แล้ว 1 แต้ม จากผลเสมอนัดแรก พบกับ อิหร่าน ที่แพ้มาในเกมแรก และยังไม่มีแต้มคะแนน
เริ่มมาในครึ่งแรก นาทีที่ 7 อิหร่าน มาได้ลุ้นเล็กๆ จากการยิงของ ซาร์ดาร์ อัซมูน ทว่าก็ยังไปตรงตัว เวย์น เฮนเนสซี่ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก นาทีที่ 12 เวลส์ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ คอนนอร์ ได้บอลทางปีกขวา ก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษ คีฟเฟอร์ มัวร์ ยืดขาพุ่งเข้าชาร์จจ่อๆ แต่ฮอสซีน ฮอสเซนี่ ปัดออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 16 อิหร่าน มาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายเต็ม ๆ จากจังหวะที่ เวลส์ไปจ่ายบอลขวางสนามพลาด ทำให้ลูกมาเข้าทางอิหร่าน และเป็น ซาร์ดาร์ ที่จ่ายลูกจากทางขวาเขตโทษไปให้ อาลี ได้ยิงแบบจ่อ ๆ ที่เสาไกล แต่ไม่มีพลาด แต่กลับมีสัญญาณจากห้อง VAR ส่งมาว่า ลูกนี้ โกลิซาเดห์ ล้ำหน้าไปจึงทำให้โดนริบประตูคืน
ทั้งสองทีมผลัดกันครองบอล ทว่าก็ยังไม่ค่อยมีจังหวัจบสกอร์เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะพาลูกไปเสีย หน้าปากประตูคู่แข่ง นาทีที่ 42 เวลส์ มาได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะจ่ายบอลยัดจากนอกกรอบเขตโทษ เข้าไปหน้าประตู คีฟเฟอร์ มัวร์ จับบอลได้ ก่อนที่ลูกจะมาเข้าทางปืนของ แฮร์รี่ วิลสัน วิ่งเข้ามากดเน้นๆ แค่แนวรับอิหร่าน ก็ยังพุ่งมาสกัดได้ทันท่วงที ทำให้แฉลบออกหลังไป หมดครึ่งเวลาแรก เวลส์ ยังเสมอกับ อิหร่าน 0ต่อ0

ครึ่งหลัง เวลส์ พบ อิหร่าน ใน ฟุตบอลโลก 2022
กลับมาเตะกันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 อิหร่าน ชวดขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะที่ ซาร์ดาร์ หลุดกับดักล้ำหน้า พาบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงเน้น ๆ ที่ลูกพุ่งผ่านมือ เฮนเนสซี่ ไปแล้ว แต่ไปชนเสากระเด้งออกมา จากจังหวะต่อเนื่อง อาลี โกลิซาเดห์ ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ลูกบอลก็พุ่งไปชนเสากระเด้งออกมา อัซมูน ได้โหม่งซ้ำ ก็ยังไปติดเซฟของ เฮนเนสซี่ อีก อิหร่าน ยังทำเกมได้ค่อนข้างเหนือกว่า และเกือบขึ้นนำ ในนาทีที่ 73 เมื่อ ซาอีดได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดเรียด ลูกพุ่งทำท่าจะเสียบเสา แต่เฮนเนสซี่ ยังพุ่งปัดปลายมือได้แบบสุดยอด
เข้าสู่นาทีที่ 84 เวลส์ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ คีฟเฟอร์ มัวร์ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนจะจ่ายย้อนคืนมาให้ เบน เดวิส ได้ซัดเต็ม แต่ฮอสซีน ยังพุ่งปัดข้ามคานได้แบบหวุดหวิดกันเลยที่เดียว นาทีที่ 87 เวลส์ ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน จากจังหวะที่ เมห์ดี้ ได้บอลเดี่ยวเข้าไปถึงหน้าเขตโทษ และแตะบอลหนี เวย์น ไปแล้ว แต่นายทวารเวลส์ใช้ขาดัก กองหน้าอิหร่านต้องล้มลง ซึ่งในจังหวะแรกกรรมการแจกแค่ใบเหลืองเท่านั้น กับมีสัญญาณจากห้อง VAR ให้เช็คภาพ ทำให้กรรมการไปดูจอ และเปลี่ยนคำตัดสินชักใบแดงไล่ เฮนเนสซี่ ออกจากสนาม และกลายเป็นใบแดงใบแรกของ ฟุตบอลโลกในปีนี้
นาทีที่ 90+8 เกมที่ทำท่าจะจบลงด้วยเสมอ ก็มามีสกอร์จนได้ เมื่อ อิหร่าน มาได้ประตูขึ้นนำ 1ต่อ0 จนได้ จากจังหวะที่ รูซเบห์ เก็บตกบอลได้บริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนยิงแบบเน้น ๆ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 90+11 อิหร่าน ได้ประตูขึ้นนำ 2ต่อ0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เมห์ดี้ ฉกบอลได้จากแดนตัวเอง กล่อนลากจี้ขึ้นมาทางปีกซ้าย จนถึงเขตโทษ แล้วจ่ายเข้ากลางมาให้ รามิน เรซาอีน จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วยกบอลข้าม เข้าไปแบบสุดเหนือชั้น
หมดเวลาการแข่งขัน เวลส์ พ่ายแพ้ให้กับ อิหร่าน 0ต่อ2 ทำให้ ทีมมังกรแดง ยังมีแค่ 1 แต้ม หล่นไปอยู่ท้ายของกลุ่ม ส่อแววที่จะตกรอบ ส่วน อิหร่าน เก็บเพิ่มเป็น 3 แต้ม ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง โอกาสเข้ารอบนั้นมีค่อนข้างสูงแล้ว